คุณเคยรู้สึกไหมคะ… ว่ามีลูกทีมบางคนที่ดู “ธรรมดา”
ทำงานตามหน้าที่ แต่ไม่โดดเด่น ไม่มีประกายตา ไม่มีพลัง
แต่จริง ๆ แล้ว เขาอาจมีศักยภาพมากกว่าที่เราเห็น

หัวหน้าหลายคนบอกลินว่า
“เขาเบื่องานค่ะ” หรือ “น่าจะไม่อินกับองค์กรแล้ว”
บางทีก็คิดไปถึงขั้นว่า “เขาอาจไม่เหมาะกับที่นี่”

แต่ลินอยากชวนมองอีกมุมค่ะ…
คนที่ยังไม่แสดงศักยภาพ อาจไม่ได้ขาดแรงบันดาลใจ
แต่อาจ “ยังไม่รู้วิธีเรียนรู้” ก็ได้

คนที่ “เรียนรู้เร็ว” คือคนที่องค์กรต้องการ

ในโลกการทำงานวันนี้
การเรียนรู้ไม่ได้เป็นแค่ “ทักษะ” แต่คือ “ทางรอด”
ใครเรียนรู้ได้เร็ว ปรับตัวได้ไว และเติบโตต่อเนื่อง
จะกลายเป็นคนที่องค์กรจับตามอง และขาดไม่ได้

ข่าวดีคือ… “ความสามารถในการเรียนรู้เร็ว” ไม่ใช่พรสวรรค์
แต่มันคือทักษะที่ “สร้างได้” และ “ฝึกได้ทุกคน”
ขอแค่คุณในฐานะหัวหน้า รู้วิธี “ปลุกศักยภาพทีม”

5 เคล็ดลับ “ปลุกศักยภาพทีม” ให้เป็น Top 5 ในออฟฟิศ

1. ช่วยจัด “พื้นที่เรียนรู้” ให้เขา

สมาธิและการเรียนรู้มักไม่เกิดขึ้นกลางความวุ่นวาย
ถ้าลูกทีมของคุณต้องทำงานรับเรื่องตลอดวัน ไม่มีเวลาทบทวนตัวเอง
เขาจะ “ทำงานไปวัน ๆ” โดยอัตโนมัติ และไม่มีพลังสร้างสรรค์

ลินแนะนำว่า หัวหน้าควรสร้าง “พื้นที่นิ่ง” ให้กับทีม
ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตหรือใช้เวลามาก แค่วันละ 30 นาที
ที่เขาจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ทบทวนตัวเอง หรือพัฒนาทักษะเล็ก ๆ ก็พอแล้ว

Tips:

• ชวนลูกทีมเคลียร์โต๊ะให้โล่ง ใช้หลัก Minimalist Workspace
• ปิดเสียงมือถือขณะโฟกัส หรือจัดมุมเงียบในออฟฟิศไว้เรียนรู้
• กำหนด “Learning Time” ประจำสัปดาห์ เช่น ทุกวันพฤหัสบดีบ่าย

2. กระตุ้นให้เขา “เห็นภาพงาน” ให้ชัด

หลายครั้งที่คนรู้สึกเบื่องาน เพราะ “ไม่เข้าใจความหมายของงาน”
เขาไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ส่งผลอะไรกับองค์กร หรือพัฒนาตัวเองอย่างไรได้บ้าง

ลินอยากชวนให้หัวหน้า “ตั้งคำถามดี ๆ” ก่อนเริ่มโปรเจกต์
เพื่อให้ลูกทีมได้เชื่อมโยงงานกับเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น

Tips:

• ถามว่า “งานนี้สร้างประโยชน์อะไรให้ทีม/ลูกค้า?”
• “ทักษะไหนที่เขาจะได้พัฒนาในงานนี้?”
• “ความสำเร็จของงานนี้จะช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายชีวิตอย่างไร?”
  

เมื่อเขาเห็นคุณค่าของงาน สมองจะตื่นตัว
และเขาจะมีพลังทำงานมากขึ้นแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ

3. สร้างวัฒนธรรม “จดเพื่อจำ”

การเขียนไม่ใช่แค่การบันทึก แต่เป็นการ “คิดให้ชัด”
สมองเราทำงานเชื่อมโยงข้อมูลได้ดีที่สุดเมื่อ “จด”
เพราะมันรวมตา หู และมือ ไว้ในการเรียนรู้พร้อมกัน

หัวหน้าควรชวนทีม “สรุปบทเรียน” จากงานที่ทำ
เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ให้กลายเป็นความรู้

Tips:

• ให้ลูกทีมเขียน Reflection หลังจบโปรเจกต์
• ตั้งคำถามว่า “ได้เรียนรู้อะไรบ้าง?” “อะไรคือข้อผิดพลาดที่อยากแก้ไข?”
• ทบทวนสิ่งที่เขียนสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเชื่อมโยงกับงานใหม่
  

แค่ฝึกเขียนวันละเล็กวันละน้อย ความคิดจะคมขึ้น
และเขาจะเริ่มเห็นความก้าวหน้าของตัวเองได้ชัดเจน

4. ให้เขา “เล่า” มากกว่า “เก็บไว้คนเดียว”

สมองของเราจะจดจำสิ่งที่ได้ใช้งานบ่อย ๆ
และวิธีง่ายที่สุดในการ “ใช้งานความรู้” คือ “การเล่า”

ชวนลูกทีมเล่าให้เพื่อนฟังว่า วันนี้ได้เรียนรู้อะไร
หรือแชร์ไอเดียเล็ก ๆ จากงานที่ผ่านมา
ไม่ต้องเป็นรูปแบบทางการ แค่ระหว่างกินข้าวยังได้เลยค่ะ

Tips:

• ตั้งกิจกรรม Morning Learning 5 นาที ก่อนเริ่มงาน
• สร้างวัฒนธรรมแชร์ Tip สั้น ๆ ผ่านแชททีม
• เปิดพื้นที่ “บอร์ดความรู้” ที่ใครก็โพสต์ได้
  

เมื่อทีมเริ่มเรียนรู้ร่วมกัน พลังบวกจะถูกส่งต่อ
ทุกคนจะรู้สึกว่า “ฉันก็เป็นคนที่พัฒนาได้” เช่นกัน

5. อย่าลืมดูแล “สมอง” ให้สดใหม่

ทักษะการเรียนรู้ดี ๆ จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อร่างกายพร้อม
สมองต้องการออกซิเจน และเลือดไปเลี้ยงอย่างเพียงพอ
การดื่มน้ำ และการออกกำลังกายเล็ก ๆ มีผลมากกว่าที่คิดค่ะ

โดยเฉพาะ “สมองส่วนหน้า” ที่เกี่ยวข้องกับความคิดวิเคราะห์
เป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจ การวางแผน และการเรียนรู้สิ่งใหม่

Tips:

• ตั้งขวดน้ำไว้บนโต๊ะ และจิบระหว่างวัน
• หลังเลิกงาน ชวนกันเดินเร็ว โยคะ หรือยืดกล้ามเนื้อ
• วันหยุดแนะนำให้ทำกิจกรรมเบา ๆ เพื่อพักสมอง เช่น อ่านหนังสือ ฟัง Podcast
  

อย่าลืมว่า… การเรียนรู้ที่ยั่งยืนเริ่มจาก “ร่างกายที่สดใส” เสมอ

สรุป: 5 วิธีปลุกศักยภาพทีม ให้เป็น Top 5 ในออฟฟิศ

1. จัดพื้นที่ให้ทีมได้โฟกัส
2. ชวนเขาเชื่อมโยงงานกับคุณค่าที่ใหญ่กว่า
3. สร้างนิสัยจดเพื่อจำ – คิดให้ชัด
4. เปิดพื้นที่ให้ได้พูด – ยิ่งแชร์ ยิ่งเติบโต
5. ดูแลสมองให้สดใส – เรียนรู้ได้ดีขึ้น

ชวนคุณทบทวน…

• วันนี้เราให้ “พื้นที่เรียนรู้” กับทีมบ้างไหม?
• มีใครบางคนในทีมที่ “ยังไม่ถูกปลุกศักยภาพ” หรือเปล่า?
• เราเคยลองใช้ “คำถามดี ๆ” แทนคำสั่งตรง ๆ บ้างหรือยัง?
  

ลินเชื่อว่าผู้นำที่ “เห็นคุณค่าคน”

คือคนที่จะสร้างทีมที่ “เห็นคุณค่าในตัวเอง” ได้

และเมื่อเขาเริ่มเชื่อว่า “ฉันก็เติบโตได้”

Top 5 คนต่อไปในองค์กร… อาจอยู่ในทีมคุณตอนนี้ก็ได้นะคะ 💛

บทความโดย ลิน Learning Hub Thailand