Personal Productivity

  • Slow down to Speed Up: ช้าลง…แล้วชีวิต (และงาน) จะมีประสิทธิภาพขึ้น

    Slow down to Speed Up: ช้าลง…แล้วชีวิต (และงาน) จะมีประสิทธิภาพขึ้น คุณเคยรู้สึกมั้ยคะว่า “ชีวิตช่วงนี้หมุนเร็วเกินไป จนไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งนิ่งๆ” หัวหน้างานหรือผู้บริหารหลายท่าน มักเข้าใจผิดว่า ทำงานเร็ว = มีประสิทธิภาพ แต่จริง ๆ แล้ว…การ “ช้าลง” คือการช่วยให้สมองและใจได้พักหายใจ เพื่อกลับมาทำงานได้ดีกว่าเดิมค่ะ 🌱 5 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเร็วเกินไป 1. ลืมง่าย ต้องย้อนกลับไปแก้ซ้ำ เคยมั้ยคะ…ทำงานเสร็จแล้ว แต่ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำเพราะข้ามขั้นตอนสำคัญ หรือส่งงานผิดรายละเอียด? นี่คือสัญญาณว่าคุณเร่งเกินไป จนสมองทำงานแบบ “รีบรอด” มากกว่า “รอบคอบ” ซึ่งสุดท้ายเสียเวลามากกว่าเดิม 2. ทำงานแบบอัตโนมัติ จนบางครั้งจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปแล้ว คุณเคยรู้สึกมั้ยคะว่า “อ้าว…ฉันตอบเมลนี้แล้วหรือยัง?” หรือ “เมื่อกี้ฉันพูดอะไรไปนะ?” การทำงานแบบอัตโนมัติ (Auto Pilot) เกิดเพราะสมองไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน แต่กำลังคิดเรื่องถัดไปตลอดเวลา ทำให้คุณเสียโอกาสในการคิดสร้างสรรค์และตัดสินใจที่แม่นยำ 3. เครียด เหนื่อยล้าแทบตลอดวัน ตื่นมาก็รู้สึกเหมือนหมดพลัง ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มงาน?…

  • ช้าลง…แล้วจะเพิ่มประสิทธิภาพงานมากขึ้น

    คุณเคยรู้สึกมั้ยคะว่า… “ชีวิตช่วงนี้หมุนเร็วเกินไป จนไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งนิ่งๆ” หัวหน้างานหรือผู้บริหารหลายท่าน มักเข้าใจผิดว่า ทำงานเร็ว = มีประสิทธิภาพ  แต่จริง ๆ แล้ว…การ “ช้าลง” คือการช่วยให้สมองและใจได้พักหายใจ เพื่อกลับมาทำงานได้ดีกว่าเดิมค่ะ 🌱 === 5 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเร็วเกินไป 1. ลืมง่าย ต้องย้อนกลับไปแก้ซ้ำ เคยมั้ยคะ…ทำงานเสร็จแล้ว แต่ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำเพราะข้ามขั้นตอนสำคัญ หรือส่งงานผิดรายละเอียด?  นี่คือสัญญาณว่าคุณเร่งเกินไป จนสมองทำงานแบบ “รีบรอด” มากกว่า “รอบคอบ” ซึ่งสุดท้ายเสียเวลามากกว่าเดิม 2. ทำงานแบบอัตโนมัติ จนบางครั้งจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปแล้ว คุณเคยรู้สึกมั้ยคะว่า “อ้าว…ฉันตอบเมลนี้แล้วหรือยัง?” หรือ “เมื่อกี้ฉันพูดอะไรไปนะ?”  การทำงานแบบอัตโนมัติ (Auto Pilot) เกิดเพราะสมองไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน แต่กำลังคิดเรื่องถัดไปตลอดเวลา ทำให้คุณเสียโอกาสในการคิดสร้างสรรค์และตัดสินใจที่แม่นยำ 3. เครียด เหนื่อยล้าแทบตลอดวัน ตื่นมาก็รู้สึกเหมือนหมดพลัง ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มงาน?  ความเครียดสะสมจากการวิ่งเร็วตลอดเวลา ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) สูงเกินไป จนส่งผลให้เหนื่อยง่าย อารมณ์แปรปรวน 4….

  • 5 วิธีปลุกศักยภาพทีมงาน ให้ทะยานเป็น Top 5 ในออฟฟิศ

    คุณเคยรู้สึกไหมคะ… ว่ามีลูกทีมบางคนที่ดู “ธรรมดา” ทำงานตามหน้าที่ แต่ไม่โดดเด่น ไม่มีประกายตา ไม่มีพลัง แต่จริง ๆ แล้ว เขาอาจมีศักยภาพมากกว่าที่เราเห็น หัวหน้าหลายคนบอกลินว่า “เขาเบื่องานค่ะ” หรือ “น่าจะไม่อินกับองค์กรแล้ว” บางทีก็คิดไปถึงขั้นว่า “เขาอาจไม่เหมาะกับที่นี่” แต่ลินอยากชวนมองอีกมุมค่ะ… คนที่ยังไม่แสดงศักยภาพ อาจไม่ได้ขาดแรงบันดาลใจ แต่อาจ “ยังไม่รู้วิธีเรียนรู้” ก็ได้ คนที่ “เรียนรู้เร็ว” คือคนที่องค์กรต้องการ ในโลกการทำงานวันนี้ การเรียนรู้ไม่ได้เป็นแค่ “ทักษะ” แต่คือ “ทางรอด” ใครเรียนรู้ได้เร็ว ปรับตัวได้ไว และเติบโตต่อเนื่อง จะกลายเป็นคนที่องค์กรจับตามอง และขาดไม่ได้ ข่าวดีคือ… “ความสามารถในการเรียนรู้เร็ว” ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่มันคือทักษะที่ “สร้างได้” และ “ฝึกได้ทุกคน” ขอแค่คุณในฐานะหัวหน้า รู้วิธี “ปลุกศักยภาพทีม” 5 เคล็ดลับ “ปลุกศักยภาพทีม” ให้เป็น Top 5 ในออฟฟิศ 1. ช่วยจัด…

  • ✅ 5 วิธีพัฒนาทักษะการฟังจับประเด็น ฉบับคนทำงานมืออาชีพ

    คุณเคยมีปัญหาแบบนี้ไหมคะ… ประชุมตั้งนาน สุดท้ายยังไม่แน่ใจว่า “สรุปเขาต้องการให้เราทำอะไรแน่?” หรือเวลาฟังเจ้านายสั่งงานแล้ว ต้องถามซ้ำหลายรอบเพราะจับประเด็นไม่ถูก สำหรับคนทำงานมืออาชีพ “การฟังให้เข้าใจ” อาจไม่พอนะคะ เราต้อง “ฟังให้จับประเด็น” ได้ด้วย  เพราะนั่นคือหัวใจของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ — เข้าใจตรงกัน ลดความผิดพลาด และทำงานต่อได้อย่างรวดเร็ว วันนี้ ลินมี 5 วิธีพัฒนาทักษะการฟังจับประเด็น ที่ใช้ได้จริงและอยากให้คุณลองฝึกค่ะ 1. ตั้งเป้าหมายก่อนฟัง ว่าจะ “ฟังเพื่ออะไร” ก่อนเข้าประชุมหรือฟังคู่สนทนา ลองถามตัวเองสั้น ๆ ว่า “ฉันต้องการข้อมูลอะไรจากการฟังครั้งนี้?” เช่น ฟังเพื่อหาคำตอบ ฟังเพื่อเข้าใจปัญหา หรือฟังเพื่อหาทางออก  การตั้งเป้าหมายแบบนี้จะช่วยให้สมองโฟกัสเฉพาะสิ่งสำคัญ และกรองข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกได้เอง 2. ฟังแบบ “โฟกัสเนื้อหา ไม่ใช่อารมณ์” หลายครั้งที่เราพลาดประเด็น เพราะมัวไปจดจ่อกับน้ำเสียงหรือท่าทางของอีกฝ่าย เช่น “ทำไมเขาพูดแบบไม่พอใจนะ” แทนที่จะฟังว่าเขาต้องการอะไร  ลองฝึกตั้งสติว่า “เนื้อหาสำคัญที่สุด” และจดเฉพาะคำสำคัญหรือประเด็นที่เชื่อมโยงกับงาน 3. สรุปทวนกลับแบบสั้น กระชับ เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ ลองสรุปให้เขาฟัง เช่น…