Interpersonal Skills

  • Mentoring Mistakes: ข้อผิดพลาดที่ทำให้การสอนงาน “ล้มเหลว”

    Mentoring Mistakes: ข้อผิดพลาดที่ทำให้การสอนงาน “ล้มเหลว” คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้มั้ยคะ…  “สอนงานไปเยอะแล้ว แต่ทำไมลูกน้องยังไม่เก่งขึ้นสักที?” 🤷‍♀️ หลายครั้งที่หัวหน้าตั้งใจสอนงาน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง แถมบางครั้งยังทำให้ทั้งเราและลูกน้องเครียดไปด้วย จริง ๆ แล้ว ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ “ตัวคน” แต่เกิดจาก “วิธีการสอน” ที่เผลอไปติดกับดักบางอย่างค่ะ 🚫 5 ข้อผิดพลาดของการสอนงานที่มักพบเจอ 1️⃣ สอนทุกอย่างในวันเดียว สิ่งที่ทำ: โปรยความรู้ก้อนใหญ่ทีเดียว หวังให้ลูกน้องเก่งเร็ว  ผลเสีย: สมองมึน จำไม่ได้ สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย  💡 วิธีแก้: แบ่งความรู้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้เวลาเขาซึมซับ 👉 “วันนี้เรียน A พรุ่งนี้ค่อยเรียน B”  2️⃣ ทำแทนเพราะเร็วกว่า สิ่งที่ทำ: เห็นลูกน้องช้า ก็แย่งมาทำเอง  ผลเสีย: เขาไม่ได้ฝึกเอง กลายเป็นพึ่งพาตลอด  💡 วิธีแก้: อดทนให้เขาลองทำ แม้จะใช้เวลานาน 👉 “ครั้งแรกอาจช้า…

  • Effective Mentoring: การเป็นพี่เลี้ยงที่ดี ไม่ใช่แค่สอนงาน

    คุณเคยสงสัยมั้ยคะว่า… ทำไมบางทีมทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เติบโตเร็ว และมีพลัง ในขณะที่บางทีมกลับรู้สึกเหมือน “ติดอยู่กับที่” ไม่ไปไหนเสียที? 🔍 คำตอบสำคัญอยู่ที่ “บทบาทของพี่เลี้ยง” หรือ Mentor นั่นเองค่ะ ในยุคที่โลกหมุนเร็ว องค์กรต้องปรับตัวตลอดเวลา หัวหน้างานหรือผู้จัดการไม่ได้มีหน้าที่แค่ “ควบคุมงาน” แต่ต้องเป็นคนที่ “พัฒนาคน” ให้ทีมของตัวเองเติบโตได้อย่างแท้จริง 💡 พี่เลี้ยงที่ดีต้องมีทักษะอะไรบ้าง? การเป็นพี่เลี้ยงไม่ใช่พรสวรรค์ค่ะ แต่คือทักษะที่เราฝึกได้ ลินสรุปออกมาเป็น 5 ข้อหลัก ๆ ที่หัวหน้างานทุกคนควรมี ✅ Mindset ที่ถูกต้อง – มองลูกน้องเป็น “คนที่มีศักยภาพ” ไม่ใช่แค่ “คนทำงาน” ✅ ทักษะการสื่อสาร – ฟังอย่างเข้าใจ ถามอย่างกระตุ้นความคิด ✅ การสอนงานอย่างเป็นระบบ – แยกงานให้ชัด ออกแบบแผนการสอน และติดตามผล ✅ การสร้างบรรยากาศปลอดภัย – ให้ทีมกล้าที่จะลองผิดลองถูก ✅ การให้ Feedback…

  • การสร้างพลังทีม แบบวงออร์เคสตรา🎼

    คุณเคยฟังดนตรีจากวงออร์เคสตราไหม… คำถามที่น่าสนใจคือ บทเพลงที่ไพเราะนั้น เป็นเพราะวงนี้รวมนักดนตรีเก่งๆไว้ด้วยกัน ใช่หรือไม่… ลองจินตนาการดูว่า หากทุกคนต่างเป็นนักดนตรีฝีมือระดับโลก แต่ถ้าทุกคนเล่นในจังหวะของตัวเอง เล่นโน้ตที่ชอบ ไม่สนใจนักดนตรีคนอื่น สิ่งที่ได้… จะไม่ใช่บทเพลง แต่คือ “ความวุ่นวาย” ลินเชื่อว่า การทำงานเป็นทีมก็ไม่ต่างกันค่ะ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน มีความสามารถโดดเด่นเพียงใด แต่ถ้าขาดการฟังกัน ปรับกัน และประสานกัน ทีมก็ไม่มีวันสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะ พลังของทีมไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งที่สุด แต่มันอยู่ที่…  การทำให้ทุกคน “เล่นไปในจังหวะเดียวกัน” รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องนำ เมื่อไหร่ต้องสนับสนุน และเมื่อไหร่ต้องเงียบ เพื่อให้เสียงของคนอื่นโดดเด่นขึ้นมา ถ้าทีมคือวงดนตรี การมีนักดนตรีฝีมือดีเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้การบรรเลงไพเราะจริง ๆ คือ “การฟังกันและกัน” และเป็นการ “เล่นเพื่อประสานเสียง” ไม่ใช่เล่นเพื่อแข่งกันโชว์ความเก่งของตัวเอง 🎯 3 หลักการ เปลี่ยนทีมธรรมดาให้เป็นวงดนตรีมืออาชีพ 1️⃣ ตั้งจังหวะร่วมกัน – เหมือนมี Conductor ที่ทำให้ทุกคนรับรู้ทิศทางเดียวกัน  💡 ทริค: เปิดประชุมด้วยการย้ำเป้าหมายใหญ่ของทีม และทบทวนความคืบหน้าร่วมกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้ทุกคน…

  • Inspiring Team Motivation – วิธีสร้างพลังใจในทีม

    เคยรู้สึกแบบนี้ไหมคะ… ในทีมของเรา แต่ละคนเก่ง ทำงานดี มีผลงาน แต่พอรวมกันกลับไม่รู้สึก “เป็นทีม” เป้าหมายที่ควรเป็นของพวกเรา กลายเป็นแค่งานของ “ฉัน” ที่ต้องทำให้เสร็จ ความจริงคือ… ทีมที่แข็งแกร่ง ไม่ได้เกิดจากการรวมคนเก่งที่สุด แต่เกิดจากคนที่ “ช่วยกันให้เก่งขึ้น” และ “ทำให้กันและกันดีขึ้น” ทุกวัน “A strong team is made not by the best individuals, but by individuals who bring out the best in each other.” พลังของทีมไม่ได้สร้างจากตำแหน่งหรือทักษะของแต่ละคน แต่มาจากสิ่งที่มองไม่เห็น… “พลังใจ” ที่ทุกคนต่างมีร่วมกัน 📌 ตัวอย่างจากประสบการณ์ตรง มีหัวหน้าท่านหนึ่งเล่าให้ลินฟังว่า ตอนแรกทีมของเธอ “เงียบ” มาก ประชุมก็เหมือนพูดคนเดียว ทุกคนรอรับงานจากหัวหน้า แล้วก็แยกไปทำ  จนวันหนึ่งเธอลองใช้เวลา 30…

  • วิธีสื่อสารกับหัวหน้างานเจ้าอารมณ์

    เคยเป็นแบบนี้มั้ยคะ…ต้องลุ้นทุกวันว่าหัวหน้าจะมาอารมณ์ไหน? บางวันก็คุยดี บางวันแค่รายงานงานเฉย ๆ ก็โดนเหวี่ยงใส่เฉยเลย 😓 ลินเข้าใจเลยค่ะ ว่าการสื่อสารกับหัวหน้าที่อารมณ์ขึ้นลงง่ายมันเหนื่อยแค่ไหน แต่ไม่ต้องถอดใจไปนะคะ ลินมี 5 วิธีสื่อสารกับหัวหน้างานเจ้าอารมณ์ ที่ช่วยให้เรารับมือได้ดีขึ้นและยังรักษาความสัมพันธ์ในงานไว้ได้ด้วยค่ะ 😊 ใจต้องนิ่งก่อนเสมอ ก่อนจะเข้าไปคุย ลองหายใจลึก ๆ ตั้งสติให้ดี เพราะถ้าเราใจนิ่ง จะสื่อสารอะไรก็ง่ายขึ้นค่ะ อย่าปล่อยให้อารมณ์เขากระทบอารมณ์เรา อ่านอารมณ์ให้ขาด เลือกเวลาคุยให้เหมาะ หัวหน้าบางคนถ้าเครียดเรื่องงานอยู่ แล้วเราเข้าไปคุยเรื่องไม่ตรงจังหวะ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง ลองเลือกเวลาที่เขาดูอารมณ์ดี หรือช่วงที่เขาว่างจริง ๆ เช่น หลังประชุมหรือหลังพักเที่ยงค่ะ ใช้คำให้เหมาะ ลดแรงปะทะ เวลาพูดกับคนที่อารมณ์ขึ้นง่าย ลินแนะนำให้ใช้ถ้อยคำที่นุ่มนวลและเน้นข้อเท็จจริงมากกว่าอารมณ์ เช่น “ลินอยากอัปเดตสถานะงานค่ะ” แทนที่จะพูดว่า “หนูเคยแจ้งไปแล้วนะคะ” เข้าใจพื้นฐานของเขาให้มากขึ้น บางคนที่ดูเจ้าอารมณ์ จริง ๆ อาจแค่มีความกดดันจากหน้าที่ที่เราไม่รู้ ลองสังเกตว่าเขาเป็นแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่า และถ้าใช่ แปลว่าเขาอาจต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออก ลองเข้าใจเขาก่อนที่จะตัดสินค่ะ ตั้งขอบเขตให้ชัดเจน ถ้าเริ่มกระทบใจเรา ถ้าอารมณ์ของเขาเริ่มล้ำเส้นจนกระทบใจเรา เริ่มตะคอก ใช้คำพูดรุนแรง ให้คุยด้วยความเคารพแต่ตรงไปตรงมา…

  • วิธีทำงานกับคนที่แตกต่าง อย่างเข้าใจ

    คุณเคยรู้สึกไหมว่า… “เราก็พยายามพูดคุยกับเขาเต็มที่แล้วนะ แต่ทำไมยังไม่เข้าใจกันสักที?” บางทีม…ประชุมก็วุ่นวาย คุยงานแล้วไม่ลงล็อก เสนออะไรก็เหมือนพูดกับกำแพง ทั้งที่ทุกคนก็ดูเก่ง มีประสบการณ์ แต่งานกลับ “ไม่ไหลลื่น” อย่างที่คิด ลินอยากชวนคิดแบบนี้ค่ะ…  ปัญหาอาจไม่ใช่เรื่องความสามารถของคุณ แต่อยู่ที่ว่า “เรายังไม่เข้าใจในความต่างของกันและกัน” ความต่าง…ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ในทีมยุคใหม่ เราจะเจอกับความหลากหลายเสมอค่ะ ทั้งต่างเจเนอเรชัน ต่างวิธีคิด ต่างค่านิยม แม้แต่ “สไตล์การสื่อสาร” ก็ยังต่างกัน บางคนพูดตรง บางคนอ้อม บางคนต้องการความเป็นทางการ บางคนชอบความเป็นกันเอง และเมื่อเราใช้ “วิธีเดียว” กับทุกคน ผลลัพธ์ที่ได้…ก็ไม่เหมือนกันเลย ถ้าอยากทำงานกับคนที่แตกต่างให้เวิร์ก ลองทำแบบนี้ค่ะ 👇 🌈 1. มองความต่างให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก เราทุกคนล้วนมี “เรื่องเล่าชีวิต” ที่ไม่เหมือนกัน ยิ่งเข้าใจสิ่งนี้ได้เร็ว…ทีมจะยิ่งเดินไปด้วยกันได้ง่ายขึ้น 🛠️ 2. ปรับวิธีสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละคน บางคนต้องเห็นภาพ บางคนต้องฟังเหตุผล บางคนอยากได้ข้อมูลล่วงหน้า บางคนชอบความกระชับตรงประเด็น ไม่มีสูตรตายตัวค่ะ…แต่มี “ความใส่ใจ” เป็นตัวนำ 🧠 3….

  • 💥ทักษะแห่งอนาคตที่สำคัญกว่าเทคโนโลยี

    คุณเคยรู้สึกไหมว่า… โปรเจกต์บางอันไม่ได้ล่มเพราะขาดงบ  แต่ล่มเพราะ “เข้าใจกันผิด” หรือทีมที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพราะคนไม่เก่ง แต่เพราะ “คุยกันไม่รู้เรื่อง” ทุกวันนี้เวลาเราพูดถึง “ทักษะแห่งอนาคต” หลายคนมักนึกถึง AI, Data หรือ Coding แต่ยิ่งลินทำงานกับองค์กรมากขึ้น ยิ่งเห็นชัดเลยว่า… สิ่งที่ขาดจริง ๆ คือ “ทักษะการทำงานร่วมกัน” ทักษะแห่งอนาคตที่ไม่มีวันตกยุค: Communication Skill เมื่อวานนี้ลินได้อ่านหนังสือ 📘 The Team Developer โดย Jack McGourty แล้วเจอโมเดลที่น่าสนใจมากชื่อว่า The Concentric Model of Team Performance โมเดลนี้บอกว่า ทีมที่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้แค่เก่งงาน แต่ต้องเก่ง 4 ทักษะนี้ร่วมกัน: 🗣️ Communication: สื่อสารเข้าใจ ไม่คลาดเคลื่อน 🤝 Collaboration: ทำงานร่วมกันอย่างลื่นไหล 🧠 Decision-Making: ตัดสินใจอย่างมีส่วนร่วม…

  • วิธีเช็คความสัมพันธ์ในทีม…แข็งแรงพอหรือยัง

    ในวันที่การทำงานเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ความเร็ว และความท้าทาย สิ่งหนึ่งที่เป็น “ภูมิคุ้มกัน” ชั้นดีของทีมไม่ใช่แค่ทักษะหรือเครื่องมือ แต่คือ “ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างคนในทีม” ค่ะ งานวิจัยของ Gallup Organization ชี้ว่า คนที่มี เพื่อนสนิทหรือกัลยาณมิตรในที่ทำงาน จะมีความสุขในการทำงานมากกว่าคนอื่นถึง 7 เท่า! แต่ความสัมพันธ์ดี ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เราทุกคนต้อง “ตั้งใจสร้าง” ให้เกิดขึ้น 💡 ทำไมความสัมพันธ์ในทีมถึงสำคัญ? เพราะทีมที่แข็งแรงจากภายใน คือทีมที่ “กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง” ด้วยพลังใจที่ไว้ใจกัน 💚 เมื่อมีคนรอบตัวที่เรารู้สึกดีด้วย ไอเดียจะไหลลื่น การรับมือกับปัญหาจะง่ายขึ้น เรากลายเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเองได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกัน… ถ้าความสัมพันธ์ในทีมเปราะบาง แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ ก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ และบั่นทอนพลังงานของทั้งทีมได้ 🛠️ ลองเช็กดู… ทีมของคุณมี “ความสัมพันธ์ที่แข็งแรง” หรือยัง? 🌱 1. ไว้ใจกันจริงไหม? มีความรู้สึกปลอดภัยที่จะพูดตรง ๆ โดยไม่ต้องกลัวจะถูกตัดสินหรือเอาไปนินทาหรือเปล่า? 🌱 2….